ใส่ชุดวาบหวิวมาทำบุญตักบาตรพระ เป็นเรื่องที่สมควรทำหรือไม่ การทำบุญตักบาตรพระไม่ว่าจะเป็นการไปทำที่วัดหรือการใส่บาตรกับพระตามข้างถนนที่เราอาจจะผ่านมาเจอนั้นถือว่าเป็นการสร้างบุญสร้างกุศลให้กับชีวิตของตัวเองทั้งสิ้นแต่ก็ยังมีข้อกังขากันอยู่ว่า การที่หญิงสาวจะทำบุญใส่บาตรกับพระนั้น การแต่งตัวที่ล่อแหลม แต่ตัวโป้จนเกินไป เราควรที่จะแวะทำบุญใส่บาตรหรือเราควรแต่งตัวแบบนี้ไปทำบุญที่วัดหรือไม่ ซึ่งล่าสุดได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโพสต์ภาพตัวเองใส่กางเกงเอวต่ำ เสื้อเกาะอกกำลัง นั่งใส่บาตรพระในตอนเช้าซึ่งเมื่อมีการเผยแพร่ภาพออกมา ภาพดังกล่าวต่างก็มีคนแชร์ออกมาเป็นจำนวนมากซึ่งต่างก็บอกว่าการแต่งกายแบบนี้ของหญิงคนดังกล่าวไม่เหมาะสมกับการที่จะไปใส่บาตรซึ่งเธอก็ออกมาบอกว่าเธอเพิ่งออกมาจากผับ เพิ่งกลับจากไปเที่ยวมายังไม่ได้เข้าบ้านเลย ระหว่างทางที่ขับรถกลับบ้านบังเอิญเจอเพราะกำลังเดินบิณฑบาตเธอจึงจอดรถเพื่อใส่บาตรเพราะตั้งใจจะทำบุญไปให้พี่ชายที่เสียชีวิตไปแล้ว ไม่ได้ตั้งใจที่จะใส่ชุดนี้มาใส่บาตรแค่เป็นการบังเอิญเท่านั้น ซึ่งถึงแม้เธอจะพยายามออกมาชี้แจงอย่างไรแต่กระแสในโลกโซเชียวก็ยังคงต่อต้านการแต่งกายของเธอและยังคงด่าเธอไม่หยุดจนเธอต้องลบภาพดังกล่าวออกไปจากเฟสส่วนตัวของเธอเอง การแต่งกายทำบุญกับพระสงฆ์ถึงแม้จะด้วยความรีบ หรืออะไรก็แล้วแต่หากเรายังแต่งกายไม่เหมาะสมก็ไม่ควรจะต้องรีบทำบุญแบบนั้นการทำบุญสามารถทำได้ทุกวันทุกเวลา ไม่จำเป็นจะต้องใส่บาตรกับพระ เพราะการที่เราแต่งกายไม่สุภาพเราก็เปรียบเหมือนมารของศาสนาที่ไปทำให้พระจิตใจสั่นไหว หลายครั้งที่เรามักจะเห็นวัยรุ่นบางคนมักจะแต่งกายด้วยกางเกงขาสั้นหรือใส่เสื้อที่คอกว้างและสึกไปทำบุญที่วัด ซึ่งเจตนาของคนกลุ่มนี้คงไม่ได้ตั้งใจใส่ไปเพื่ออวดพระ เพียงแค่แต่งตัวตามความเคยชินแต่การแต่งแบบนี้เป็นการแต่งตัวที่เป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ซึ่งไม่สมควรทำอย่างยิ่ง ดังนั้นข่าวการแต่งตัวไม่เหมาะสมในการทำบุญครั้งนี้ได้เผยแพร่ออกมาจึงเป็นเหมือนตัวอย่างให้คนอื่นได้รับรู้ว่า แท้ที่จริงแล้วการแต่งกายจะไปที่ไหนสักที่ควรดูถึงกาลเทศะในการแต่งด้วย เพราะคนภายนอกมองมาเขาจะรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่เราทำถึงแม้พวกเขาจะไม่พูดต่อหน้าแต่ก็เอามานินทาลับหลังเราได้ และที่สำคัญการแต่งกายล่อแหลมไปใส่บาตรแทนที่เราจะได้บุญเรากลับจะได้บาปกลับมาแทน
ต้นต่อของฝุ่นPM2.5 หลายวันที่ผ่านมานี้ทุกคนคงตื่นนอนมาแล้วเมื่อเปิดหน้าต่างเพื่อต้องการสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ก็ต้องพบความแปลกใจที่ว่าทำไมมีหมอกลงเยอะขนาดนี้ ไหนลองสัมผัสอากาศสิ ก็ไม่ได้เย็นหรือหนาวเลยนะ แต่ทำไมมีหมอกเต็มเมืองเต็มท้องฟ้าขนาดนี้ เอาล่ะมาถึงตรงนี้แล้วคงจะรู้แล้วใช่หรือไม่ว่าที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นไม่เป็นความจริงเลย เพราะหมอกหนาที่ทุกคนเห็นอยู่นี้นั้นไม่ใช่หมอก แต่มันคือกลุ่มฝุ่นPM2.5ที่ถูกรวมตัวกันจนมีรูปลักษณะที่เหมือนกับว่าเป็นหมอก รู้แบบนี้แล้วก็รีบปิดหน้าต่างเข้าห้องเหมือนเดิมจะดีกว่า เพราะถ้าหากสูดดมเข้าไปแล้วจะเป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะฝุ่นชนิดนี้นั้นมีขนาดที่เล็กมาก เล็กกว่า 2.5 ไมครอนเสียอีก เล็กกว่าฝุ่นทั่วไป และเราไม่สามารถมองมันเห็นด้วยตาเปล่า แต่ถ้าหากเมื่อมันรวมตัวกันมากขึ้นก็จะทำให้เราสามารถมองเห็นมันในลักษณะที่เราเห็นในตอนนี้เหมือนกับกลุ่มควัน กลุ่มหมอกที่เทาๆ ทึบๆ ลอยอยู่เต็มชั้นบรรยากาศ ซึ่งด้วยความที่มันมีขนาดเล็ดจึงทำให้แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายทั้งทางจมูก ตา และผิวหนังที่จะไวต่อการแทรกซึมและส่งผลอันตราย หากถามว่า ฝุ่นPM2.5นั้นเกิดขึ้นจากอะไร ซึ่งได้มีสถาบันการวิจัยทั้งไทยและต่างประเทศได้ทำการวิเคราะห์และวิจัยถึงสาเหตุการเกิดฝุ่นชนิดนี้ว่า ส่วนใหญ่แล้วนั้นเกิดมาจากการเผาไหม้ ทั้งจากเครื่องยนต์ยานพาหนะต่างๆ การเผาไหม้วัสดุต่างๆ… Read more »
มีรายงานข่าวประจำวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562 เข้ามาว่าที่อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีเจ้าของรีสอร์ตรายหนึ่งได้พาคนงานกว่า 10 นายมาติดป้ายประท้วงต่อว่านายกรัฐมนตรีและเหล่ากระทรวงต่างๆ ทั้งกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรัพยากร ว่าไม่สนใจทำงานปล่อยปละละเลยให้มีคนมาสร้างรีสอร์ตเถื่อนด้วยการบุกรุกป่าสงวนมากมาย ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรีสอร์ตของตนมาก และที่ติดป้ายประท้วงนายกวันนี้เพราะจะมีคอนเสิร์ต ดังนั้น ค่อนข้างมั่นใจว่าจะมีคนผ่านไปผ่านมาเยอะซึ่งทางเจ้าของรีสอร์ตต้องการให้มีคนอ่านเยอะๆจึงอาศัยช่วงเวลานี้ โดยเจ้าของรีสอร์ทรีสอร์ตเมาเทนพาร์คสวิสเซอร์แลนด์ ยังระบุอีกว่า เจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่อำเภอเขาค้อ รู้เรื่องเกี่ยวกับปัญหานี้ทุกอย่างแต่กลับไม่สนใจที่จะแก้ไขปล่อยให้มีการสร้างรีสอร์ตผิดกฎหมายออกมามากมายถึงหนึ่งพันกว่าที่แล้ว จนตัวเองทนไม่ไหวจึงต้องมาปิดป้ายประท้วงเพื่อให้เรื่องถึงนายกรัฐมนตรีเร็วๆ จะได้มีคนสนใจที่จะแก้ไขปัญหานี้ให้สักที จากปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ป่าสงวนที่มีข่าวครึกโครมนั้นการแก้ไขคงจะเป็นไปค่อนข้างยาก ขนาดสมาชิกวุฒิสภาราษฎรอย่าง ส.ส. ปรีณา ทางเจ้าหน้าที่ป่าสงวนยังไม่มีการทำอะไรเลย ถึงแม้จะมีข่าวออกมาครึกโครมแต่ก็เลือกที่จะทำตัวเงียบไม่สนในอะไร ทำงานกินภาษีของประชาชนไปเฉย… Read more »
อเล็กซานดรา อดัมส์ อายุ 25 ปี นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่สี่แห่งมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงติดอันดับหนึ่งในห้าของสหราชอาณาจักรอดัมเป็นคนพิการหูหนวกตาบอดมาตั้งแต่เกิดแต่เดิมเธอไม่เคยสนใจที่จะเป็นแพทย์มาก่อนจนกระทั่งเมื่อตอนเธออายุ 16 ปี เธอเป็นตัวแทนของนักกีฬาว่ายน้ำสหราชอาณาจักรในการแข่งขันพาราลิมปิค 2012 แต่กับป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลจากอาการกดไหลย้อนอย่างรุนแรงแพร่ต้องทำการผ่าตัดช่องท้องของเธอกว่า 20 ครั้งจึงทำให้เธอต้องใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานถึงหนึ่งปีกับอีกหกเดือน ด้วยประสบการณ์อันเลวร้ายครั้งนี้เธอจึงตัดสินใจเลิกเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกกลับเข้าไปเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอดโดยมีเป้าหมายใหม่คืออยากเป็นหมอเธอต้องการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยที่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เธอเคยประสบมาก่อนแล้วหลังจบจากโรงเรียนสอนคนตาบอด อดัมส์ ได้สมัครเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนแพทย์หลายแห่งแต่ทุกที่ปฏิเสธที่จะรับเธอแต่เธอก็ไม่ยอมย่อท้อต่อความตั้งใจเธอจึงยอมเสียเวลารออีกหนึ่งปีเพื่อเข้าสมัครเรียนในมหาวิทยาลัยแพทย์อีกครั้งหนึ่งแล้วในปีถัดมาเธอก็สามารถเข้าเรียนในคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ได้สำเร็จ แม่เป้าหมายในการเข้าเรียนคณะแพทย์จะสำเร็จแต่ด้วยอุปสรรคทั้งร่างกายทำให้เส้นทางสู่กลางฝันของเธอนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก หูของเธอหนวกทั้งสองข้างตาข้างขวาบอดสนิทส่วนข้างซ้ายมองเห็นเพียง 5 เปอร์เซนต์เธอโดนดูถูกดูแคลนทั้งจากเพื่อนนักศึกษาด้วยกันเองแล้วจะอาจารย์หมอบางคนรวมไปถึงคนไข้บางรายด้วยนี่คืออุปสรรคอีกขั้นหนึ่งในชีวิตนักศึกษาแพทย์ของเธอแต่อดัมส์ ก็ไม่เคยย่อท้อเธอมีความมุ่งมั่นและเชื่อมั่นในตัวเองว่าแม้การมองเห็นของเธอจะมีเพียงน้อยนิดแต่ความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจของคนไข้นั้นมันมีอยู่ในตัวเธอมากกว่าคนจำนวนมากแน่นอน ในความมุ่งมั่นพยายามและความอดทนต่ออุปสรรคทั้งหลาย ของเธออดัมส์โชคดีได้มีโอกาสพบกับคนพิการที่เป็นแพทย์ในสารัทธ์อเมริกาได้เจอกับหมอที่ตาบอดสนิทถึงห้าท่านเธอได้เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆมากมายที่จะช่วยให้การทำงานของเธอนั้นง่ายขึ้นจากแพทย์สหรัฐอเมริกาขณะนี้ ซึ่งถือเป็นกำลังใจสำคัญให้เธอต่อสู้กับความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆในการเรียนวิชาแพทย์ต่อไปอีกไม่นาน อเล็กซานดราออดัมส์ จะกลายเป็นคุณหมอหูหนวกตาบอดคนแรกของสหราชอาณาจักรและของโลกในเร็วๆนี้
เปิดปม จากที่มีคดียิงกันในศาล ชนวนเหตุ แค้นที่ถูกโกงที่ดินกว่า 3 พันไร่ จากกรณีที่มีเหตุยิงกันในศาลหน้าบัลลังก์ผู้พิพากษาในคดีฟ้องแพ่งเกี่ยวกับที่ดิน ที่สู้คดีกันมายาวนานเป็น 10 ปี ที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุคือ พลตำรวจตรีธารินทร์ จันทราทิพย์ อายุ 67 ปี ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคู่กรณี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ได้แก่ นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ โจทก์ นายวิจัย… Read more »
